ชวนเที่ยว ลพบุรี ได้ยินชื่อนี้หลายคนคงคิดถึงทุ่งทานตะวันกว้างใหญ่ และเหล่าฝูงลิง แต่รู้หรือไม่ว่าจริงๆ แล้วจังหวัดลพบุรีมีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 3,000 ปี โบราณสถานหลายแห่งที่นี่อยู่คู่เมืองมาตั้งแต่สมัยละโว้ WBET69 นอกจากนี้ยังมีที่เที่ยวแนวธรรมชาติมากมาย ถือเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่มีสเน่ห์มาก แถมอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพ ขับรถมาเพียง 2 ชั่วโมงก็ถึงแล้ว จะมาเที่ยวแบบค้าง 2 วัน 1 คืนก็ดี หรือใครสะดวกจะเที่ยวแบบเช้าไปเย็นกลับก็ย่อมได้ ว่าแล้วก็ตามไปดู ที่เที่ยวลพบุรี ฉบับอัพเดท 2022 ที่เรารวบรวมมาให้กันได้เลย
1.พระปรางค์สามยอด
หากจะมาย้อนรอยประวัติศาสตร์เมืองละโว้ หรือลพบุรีเก่า คงขาดที่นี่ไปไม่ได้ พระปรางค์สามยอด จังหวัดลพบุรี เป็นปราสาทขอม 3 องค์ ที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยลพบุรียังเป็นเมืองลูกหลวงของอณาจักรกัมพูชา เมื่อประมาณ 300 ปีมาแล้ว ตัวอาคารจึงมีโครงสร้างเป็นศิลาแลงประดับปูนปั้นตามลักษณะสถาปัตยกรรมแบบเขมรโบราณ ว่ากันว่าเดิมทีที่นี่อาจเป็นเทวสถานสำหรับศาสนาฮินดู ก่อนจะมีการบูรณปฏิสังขรณ์เป็นวัดพุทธในสมัยพระนารายณ์มหาราช พระปรางค์ทั้งสามเชื่อมต่อกันด้วยมุขกระสัน โดยมีวิหารอิฐอยู่ด้านหน้า เป็นโบราณสถานที่มีเอกลักษณ์สวยงาม แม้ว่าพระปรางค์สามยอดจะทรุดโทรมไปบ้างตามกาลเวลา แต่มนต์ขลังยังคงอยู่กับที่นี้ไม่เปลี่ยนแปลง
2.พระนารายณ์ราชนิเวศน์
พระนารายณ์ราชนิเวศน์ หรือที่คนท้องถิ่นเรียกกันสั้นๆ ว่า วังนารายณ์ ตั้งอยู่กลางเมืองลพบุรี บนที่ดินขนาดใหญ่ 41 ไร่ มีอายุกว่า 350 ปี ถือเป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวลพบุรีที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ โดยก่อนจะมีชื่อเรียกอย่างทุกวันนี้ ที่นี่เคยเป็นที่ประทับของพระนารายณ์ เพื่อใช้ล่าสัตว์ ต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง และออกว่าราชการมาก่อน ปัจจุบันได้จัดพระที่นั่งจันทรพิศาล บริเวณพระราชวังชั้นกลางเป็นพิพิธภัณฑ์แสดงวัตถุโบราณ และชิ้นงานศิลปะที่มีความโดดเด่น บอกเล่าเรื่องราวความเป็นมาของลพบุรีได้เป็นอย่างดี
3.วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ
วัดพระศรีรัตนมหาธาตุเป็นโบราณสถานเก่าแก่ ประจำเมืองลพบุรี อยู่ตรงข้ามสถานีรถไฟพอดีเป๊ะ ที่นี่อายุเท่าไหร่ยังไม่สามารถระบุได้อย่างแน่ชัด พบเพียงร่องรอยการบูรณปฏิสังขรณ์หลายครั้ง ตั้งแต่สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ถึงยุคสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ
วัดนี้เดิมทีมี 2 ส่วน คือ ส่วนพุทธาวาส และสังฆาวาส ปัจจุบันเหลืออยู่เพียงส่วนของพุทธาวาส ขนาดประมาณ 20 ไร่ พระปรางค์ของวัดยังมีลวดลายปูนปั้นเดิมให้ได้เห็น ที่หน้าประตูมีศาลาเปลื้องเครื่องไว้สำหรับกษัตริย์ในสมัยนั้นเปลื้องเครื่องทรงก่อนประกอบพิธีทางศาสนา และภายในมีพระอุโบสถขนาดย่อมที่ประตูและหน้าต่างเป็นแบบฝรั่งเศสทั้งหมด มีความสวยงาม แปลกตา
4.บ้านวิชาเยนทร์
บ้านวิชาเยนทร์ เป็นกลุ่มบ้านหลวงที่สร้างขึ้นเพื่อรับรองคณะราชทูตที่ต้องการเข้าเฝ้าสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ตั้งอยู่ไม่ไกลจากพระนารายณ์ราชนิเวศน์ โดยคณะราชทูตจากฝรั่งเศสเป็นชุดแรกที่ได้มาเยือนบ้านวิชาเยนทร์เมื่อปีพ.ศ. 2228 ตัวบ้านแต่ละหลังมีลักษณะสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น อลังการ ทั้งตัวโบสถ์คริสต์ด้านหลังของบ้าน ที่ตกแต่งซุ้มประตู และหน้าต่างด้วยลักษณะของโบสถ์ทางพุทธศาสนา และบางหลังสร้างเป็นสไตล์ยุโรปโดยสมบูรณ์ โครงสร้างบางหลังมีการก่ออิฐถือปูน 2 ชั้น ซุ้มประตู และหน้าต่างมีลักษณะเป็นศิลปะตะวันตกแบบเรอเนสซองส์ เป็นความหรูหราที่สามารถชมได้ที่บ้านวิชาเยนทร์ จังหวัดลพบุรีเท่านั้น
5.วัดเขาวงพระจันทร์
ออกมานอกเมืองกันบ้าง วัดเขาวงพระจันทร์อยู่ห่างจากตัวเมืองลพบุรีประมาณ 28 กิโลเมตร เป็นวัดพุทธขนาดไม่ใหญ่นัก มีภูเขาโอบล้อมเป็นเส้นโค้งทั้ง 4 ด้านเหมือนพระจันทร์ บนยอดเขามีรอยพระพุทธบาทให้ผู้ศรัทธาขึ้นไปสักการะได้ ส่วนเรื่องระยะทางเรียกได้ว่าวัดใจกันเลยทีเดียว เพราะต้องขึ้นบันได 3,790 ขั้นเพื่อไปยังยอดเขา แต่ถึงจำนวนขั้นจะเยอะจนอยากส่งใจขึ้นไปแทน
วิวบนยอดเขานั้นก็สวยจับใจจนใครๆ บอกกันปากต่อปากว่าคุ้มค่าที่ได้ขึ้นมา บันไดที่นี่ถือว่าไม่ได้เดินลำบาก มีราวให้จับ และมีร้านค้าให้นั่งพักดื่มน้ำอยู่ตามทาง แต่ก็อย่าประมาทไป ใครมาเที่ยวลพบุรีแล้วอยากแวะมาที่นี่ก็ฟิตร่างกายเตรียมพร้อมสักหน่อย ปลอดภัยไว้ก่อนดีกว่าเนอะ
ชวนเที่ยว ลพบุรี ไปต่อไม่รอแล้วนะ
6.ทุ่งทานตะวัน เขาจีนแล
ทุ่งทานตะวัน เขาจีนแล เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวลพบุรีที่ตอนนี้แทบจะกลายเป็นสัญลักษณ์ประจำจังหวัดไปแล้ว ด้วยเนื้อที่อันกว้างใหญ่ไพศาลกว่า 1,000 ไร่ มองไปทางไหนก็เห็นทุ่งดอกทานตะวันสีเหลืองอร่ามสุดลูกหูลูกตา พร้อมมีภูเขาจีนแลเป็นฉากหลัง แค่ยืนเฉยๆ ก็ชื่นใจ หรือใครอยากดื่มด่ำกับบรรยากาศแบบไม่ร้อน ไม่เหนื่อย ที่นี่ก็มีบริการรถรางให้บริการ (ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท) ระหว่างทางมีแวะจอดให้ถ่ายรูป 5-10 นาที นอกจากนี้ในบริเวณไร่ยังมีร้านค้าชาวบ้านขายผลผลิตทางการเกษตร และของที่ระลึกให้แวะช้อปก่อนกลับอีกด้วย
7.เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์
เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เป็นเขื่อนดินกั้นน้ำที่ยาวที่สุดในประเทศไทย สร้างขึ้นเพื่อบริหารน้ำ สำหรับอุปโภคบริโภคและการเกษตร มีเนื้อที่ใหญ่ครอบคลุมถึงสองจังหวัด คือ ลพบุรีและสระบุรี รวมทั้งสิ้นกว่า 100,000 ไร่ ทำให้ด้านบนเป็นทะเลสาบขนาดมหึมาที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมากตลอดทั้งปี กิจกรรมบนเขื่อนก็หลากหลาย มีทั้งปล่อยปลา นั่งรถ รางชมสันเขื่อน ชมวิวเขื่อนจากมุมสูงหอคอยเฉลิมพระเกียรติ พิพิธภัณฑ์ลุ่มน้ำป่าสัก และเช่าจักรยานขับรับลมชิลๆ (กิจกรรมบางอย่างมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม สามารถสอบถามราคาได้ ณ. จุดบริการ) มีเวลาเที่ยวลพบุรีแค่ 1 วันก็สบาย
8.รถไฟลอยน้ำ
ช่วงฤดูหนาวเป็นช่วงที่คนนิยม มาเที่ยวลพบุรีมากที่สุดช่วงหนึ่งของปี เพราะนอกจากดอกทานตะวันตามไร่ต่างๆ จะเริ่มทยอยกันบานแล้ว ยังเป็นช่วงเวลาเดียวของปีที่ทุกคนจะได้สัมผัสกับรถไฟลอยน้ำแห่งเดียวในไทย เพราะในระหว่างเดือนพ.ย.-ม.ค. น้ำในเขื่อนป่าสักจะขึ้นสูง ทำให้เมื่อมองออกไปนอกหน้าต่างจะเห็นผืนน้ำขนาบอยู่สองข้างทางราวกับว่ารถไฟกำลังล่องอยู่บนทะเลสาบ เกิดเป็นทิวทัศน์ที่สวยงามไม่เหมือนใคร
โดยรถไฟนำเที่ยวขบวนพิเศษนี้มีปลายทางที่เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ระหว่างทางมีจอดกลางเขื่อนให้ถ่ายรูป ชมวิวประมาณ 20 นาทีเมื่อถึงเขื่อนป่าสักฯ ก็สามารถนั่งรถตู้ไปทุ่งทานตะวันบ้านกล้วย & ไข่ หรือสวนเฟิร์นยักษ์ที่ไร่ทรัพย์ประยูรได้ (ค่ารถตู้ 60 บาทตลอดสาย) หรือใครจะอยู่เที่ยวชมบนเขื่อนก็ตามสะดวก รถไฟลอยน้ำถือเป็นเดย์ทริปยอดฮิตตลอดกาลประจำจังหวัดลพบุรีที่ได้รับกระแสตอบรับดีทุกปี ใครอยากมาอาจต้องรีบหน่อย เพราะตั๋วเขาขายดีจริงๆ
9.สวนรุกขชาติวังก้านเหลือง
สวนรุกขชาติวังก้านเหลือง เป็นที่เที่ยวลพบุรีแนวธรรมชาติ ที่บอกได้เลยว่าแค่มองรูปก็ชื่นใจ ภายในเป็นป่า และธารน้ำตกตามธรรมชาติที่สมบูรณ์ แทบไม่ผ่านมือมนุษย์เลย ตาน้ำของที่นี่เป็นน้ำผุดจากใต้ดิน มีสีเขียวมรกตสวยงาม ธารน้ำตกที่นี่เป็นทางลาดหินผาไม่ต่ำกว่า 10 ชั้น ไม่สูงชันมากนักและไม่ลื่น สามารถเดินข้ามและเล่นน้ำได้อย่างสบาย มีน้ำไหลแรงตลอดทั้งปี ที่สำคัญสามารถมากางเต็นท์แคมป์ปิ้งกันได้ฟรี โดยลานกางเต็นท์ของที่นี่เป็นแบบ first come first serve ไม่มีการจองล่วงหน้า เพราะฉะนั้นใครที่มาช่วงวันหยุดยาวอาจต้องมาจองที่กันเร็วหน่อย แล้วอย่างลืมพกถุงดำมาเก็บกวาดก่อนกลับด้วยนะ
10.บ่อน้ำเดือด
บ่อน้ำเดือด เป็นบ่อน้ำผุดตามธรรมชาติ ที่ไม่ได้มีขนาดใหญ่มากนัก มีความสวยเป็นที่เลื่องชื่อของเมือง เพราะน้ำสีฟ้าอมเขียวจัด ใสจนเหมือนกับกระจก คนไม่เยอะ ถ่ายรูปออกมาสวย โดยชื่อนี้ได้มาจากการที่น้ำผุด จากใต้ดินก่อให้เกิดฟองอากาศบนผิวน้ำ ดูคล้ายกับน้ำที่กำลังเดือด นับเป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวลพบุรีที่สามารถเข้าชมได้ฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่าย บริเวณโดยรอบไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากนัก มีเพียงลานจอดรถที่สามารถจอดได้ประมาณ 4-5 คัน แต่ก็เพียงพอในแต่ละวัน เพราะนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ใช้เวลาที่นี่ไม่นาน และด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย และการอนุรักษ์ธรรมชาติ ที่นี่จึงไม่อนุญาตให้ลงเล่นน้ำ แต่สามารถหย่อนขาลงไปได้ตามจุดที่กำหนดเท่านั้น
11.จุดชมวิวยอดเขาพระยาเดินธง
จุดชมวิวยอดเขาพระยาเดินธง เป็นจุดชมวิวบนยอดเขาที่หันหน้าไปทางทิศตะวันออก แลนด์มาร์คใหม่ของลพบุรี มีวิวยามเช้าที่เรียกได้ว่าสวยจับใจ โดยเฉพาะช่วงปลายฝนต้นหนาว ใครโชคดีอาจได้เห็นทะเลหมอกใกล้กรุงอีกด้วย ที่สำคัญสามารถขับรถขึ้นไปได้จนถึงยอดเขา ทางขึ้น-ลงเป็นถนนลาดยางไม่ชันมาก ช่วง 4 กิโลเมตรสุดท้ายก่อนถึงยอดเขามีชื่อเรียกน่ารักๆ ว่า ถนนลอยฟ้าลพบุรี โดยด้านบนรวมถึงจุดชมวิวเป็นพื้นที่ของสถานปฏิบัติธรรมวัดหนองนา หากสนใจก็สามารถขออนุญาตวัดเพื่อกางเต็นท์ค้างคืนได้ ไม่มีค่าใช้จ่าย แต่อาจต้องสำรวมหน่อย เพราะยังถือว่าอยู่ในเขตของวัด ใครมาเที่ยวลพบุรีก็แวะมาเก็บภาพลพบุรีแบบพาโนรามากันได้ที่นี่เลย
12.วัดห้วยแก้ว
ชวนเที่ยว ลพบุรี วัดห้วยแก้ว ตั้งอยู่บนลำห้วยแก้ว เป็นวัดเก่าแก่อายุกว่า 140 ปี มีสถาปัตยกรรมขอมโบราณ ที่มาจากการผสมผสานศิลปะแบบขอมจาก 3 ประเทศ (ไทย กัมพูชา และเมียนมาร์) ทำให้ที่นี่สวยงามตระการตา สร้างความประทับใจให้กับผู้ที่พบเห็น โดยหนึ่งในไฮไลต์สำคัญของวัดห้วยแก้วคงหนีไม่พ้นเจดีย์กลางน้ำ หรือองค์พระเจดีย์มหาเมตตารัตนะรังษี อันเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปหยกเขียวหยกขาวจากประเทศเมียนมาร์ ว่ากันว่าใครได้มากราบไหว้ก็จะโชคดี ปรารถนาสิ่งใดก็จะได้สิ่งนั้น ด้วยมนต์เสน่ห์ที่ไม่เหมือนใครนี้เอง ทำให้ที่นี่มีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมเยือน อย่างไม่ขาดสาย มาแล้วคุ้มค่า ไม่เสียเวลาอย่างแน่นอน…bigsoccerscores
ใส่ความเห็น